Blog Archive
-
►
2011
(1)
- ► 06/19 - 06/26 (1)
-
►
2010
(7)
- ► 10/24 - 10/31 (1)
- ► 09/19 - 09/26 (1)
- ► 09/12 - 09/19 (2)
- ► 08/22 - 08/29 (1)
- ► 08/15 - 08/22 (2)
-
▼
2009
(195)
- ► 12/06 - 12/13 (2)
- ► 11/22 - 11/29 (1)
- ► 11/15 - 11/22 (1)
- ► 08/23 - 08/30 (1)
- ► 08/16 - 08/23 (2)
- ► 08/09 - 08/16 (5)
- ► 08/02 - 08/09 (9)
- ► 07/26 - 08/02 (15)
- ► 07/19 - 07/26 (21)
- ► 07/12 - 07/19 (22)
- ► 07/05 - 07/12 (13)
- ► 06/28 - 07/05 (9)
- ► 06/21 - 06/28 (6)
- ► 06/14 - 06/21 (14)
- ► 06/07 - 06/14 (9)
- ► 05/31 - 06/07 (4)
- ► 05/24 - 05/31 (4)
- ► 05/17 - 05/24 (9)
- ► 05/03 - 05/10 (3)
- ► 04/05 - 04/12 (3)
- ► 03/29 - 04/05 (7)
- ► 03/22 - 03/29 (5)
- ► 03/15 - 03/22 (11)
- ▼ 03/08 - 03/15 (5)
- ► 03/01 - 03/08 (14)
Labels
- 100เรื่องความเป็นไทย (37)
- ข่าว (13)
- คลายเครียด (1)
- แค่อยากเล่า (41)
- โฆษณาดีๆ (4)
- จุดกำเนิด (3)
- ชุดไทยควรรู้ (8)
- ต้นกล้าอาชีพ (13)
- ตำนานโบราณ (18)
- ทริปริมทาง (7)
- นิยายดีๆ (5)
- บทความดีๆ (30)
- ภาพหาดูอยาก (6)
- รายการ วิกสยาม (7)
- หนังเก่าหน้าดู (1)
- หาเงินทางเน็ท (3)
- otopไทย (7)
ขับเคลื่อนโดย Blogger.
โลหะปราสาท หนึ่งเดียวในโลก
06:04 | เขียนโดย
mikaalls |
แก้ไขบทความ

คำว่า "โลหะปราสาท" Lohaprasada เป็นชื่อดั้งเดิมของอินเดีย เรียกมาแต่ครั้ง
พุทธกาล สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงประทานความหมายว่า "ตึกที่มียอดเป็นโลหะ "ตามตำนานกล่าวว่า โลหะปราสาทแห่งแรกนั้น นางวิสาขาฯได้สร้างถวาย
พระพุทธเจ้าที่บุพพารามประเทศอินเดีย ต่อมาในปี พ.ศ.382 พระเจ้าทุฏฐคามณีอภัยทรงโปรดให้สร้างขึ้นในลังกาเป็นองค์ที่ 2 ปัจจุบันทั้ง 2 แห่งคงเหลือแต่ซากเสาปักอยู่
พอพูดถึงโลหะปราสาทก็ขอบอกประวัตินิดละกันครับ
โลหะปราสาท เป็นโบราณสถานล้ำค่าของชาติไทย ได้รับการยกย่องว่าเป็นโลหะปราสาทแห่งที่ ๓ ของโลก ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประเทศไทยเพียงแห่งเดียว แห่งแรกอยู่ที่ประเทศอินเดีย แห่งที่ ๒ อยู่ที่ประเทศศรีลังกา ทั้งสองแห่งได้ถูกทำลายพังสูญสิ้นไปแล้ว เหลือสมบูรณ์อยู่ ณ วัดราชนัดดารามวรวิหารเท่านั้น โลหะปราสาท ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้ช่างออกแบบก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๓๘๙ ตาม
ลักษณะของโลหะปราสาทที่พรรณาไว้ในหนังสือมหาวงศ์ พงศาวดารลังกา โดยมอบหมายให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัต บุนนาค) ขณะนั้น ยังเป็นพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา ดำรงตำแหน่งอธิบดีก่อสร้าง เป็นแม่กองดำเนินการก่อสร้าง และยังโปรดให้ช่าง
เดินทางไปดูแบบโลหะปราสาทในประเทศลังกาด้วย โดยนำเค้าเดิมมาเป็นแบบแล้วปรับปรุงให้เป็นสถาปัตยกรรมตามลักษณะศิลปกรรมของไทย แต่ที่แตกต่างจากโลหะปราสาทองค์
อื่นๆ คือ ไม่ได้สร้างสำหรับพระสงฆ์อยู่ แต่สร้างขึ้นแทนพระเจดีย์เท่านั้น
โลหะปราสาท มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตามโลหะปราสาทที่เมืองลังกา ส่วนสถาปัตยกรรมนั้นสร้างตามแบบศิลปกรรมไทย ฐานกว้างด้านละ ๒๓ วา เป็นอาคาร ๗ ชั้น ลดหลั่นกันขึ้น อาคารชั้นล่าง ชั้นที่ ๓ และชั้นที่ ๕ จะเป็นคูหาและระเบียงรอบ ในชั้นที่ ๒ และชั้นที่ ๔ ชั้นที่ ๖ ทำเป็นคูหาจตุรมุขมียอดเป็นบุษบกชั้นละ ๑๒ ยอด และชั้นที่ ๗ เป็น
ยอดปราสาทจัตรมุขสำหรับประดิษฐานพระบรมธาตุ รวมเป็น ๓๗ ยอด หมายถึง หลักธรรมในพระพุทธศาสนา ๓๗ ประการ ที่เป็นปัจจัยให้ดำเนินไปสู่ความหลุดพ้น เข้าสู่ดินแดนพระนิพพาน
ที่เรียกว่า "โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ"การขึ้นสู่โลหะปราสาทแต่ละชั้น จะมีบันไดวนตั้งอยู่ตรงใจกลางของอาคาร โดยตั้งซุงขนาดใหญ่ยึดเป็นแบบแม่บันได นับตั้งแต่เริ่มก่อสร้างโลหะปราสาทในรัชกาลที่ 3 เป็นต้นมา ยังไม่เคยก่อสร้างได้แล้วเสร็จบริบูรณ์ จนถึงรัชกาลปัจจุบันได้เริ่มมีการบูรณะครั้งแรก เมื่อปี 2506
ป้ายกำกับ:
100เรื่องความเป็นไทย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น