ขับเคลื่อนโดย Blogger.

ขอบอกก่อนนิดนึงนะครับเดย์ จริงๆแล้วไม่ได้ชื่อ พีรวีร์ ดวงสินกุลบดี แต่ชื่อ ณัฐวัฒน์ ปาใจ อันนี้เป็นการเข้าใจผิดของสื่อ
แต่รูปนั้นเป็นรูปของ เดย์ จริงๆๆ

อีกอย่างนึงคือ เค้าไม่ได้เสียชีวิตจากไข้หวัด 2009 แต่เป็นเชื้อไวรัสที่ ลงปอด และเข้าสู่หัวใจ

โพสต์กันสนั่น เว็บไซต์ Smart-Mobile.com ไว้อาลัย “เดย์” หรือที่รู้จักกันในนามแฝงกันในบอร์ดว่า Creative7419 เจ้าพ่อแห่ง font บน iPhon ที่ทำให้ชาว iPhone ใช้ font ภาษาไทยได้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 เจ้าตัวโพสต์ข้อความก่อนหน้านั่งรถไฟฟ้าไปหาหมอถึง 3 โรงพยาบาล ได้แค่ยาลดไข้พาราเซตามอล หมอเมินไม่สนตรวจเชื้อ ปล่อยให้กลับบ้าน จนกระทั่งตาย

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ได้มีการฟอร์เวิร์ดเมล ถึงการเสียชีวิตของ “เดย์” หรือ นายพีรวีร์ ดวงสินกุลบดี อายุ 28 ปี ที่เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยมีการลิงก์เข้าไปในเว็บไซต์ Smart-Mobile.com ที่ นายพีรวีร์ ได้โพสต์ข้อความเล่าอาการป่วยของตนเองก่อนหน้านี้ จนเสียชีวิต ว่า

วันนี้ ไปหาหมอตามที่หมอนัด ขึ้น BTS ไป คนก็เยอะเลยต้องยืน สักพักเริ่มหวิวๆเริ่มคลื่นไส้ แล้วโลกก็มืดลง แขนก็เริ่มชา มองอะไรไม่เห็นเลย ประมาณ 5 นาที จนถึงสยาม คนลงเยอะ ก็ตั้งสติ เพ่งเห็นลางๆ ว่า ที่นั่งว่าง ไม่ฟังเสียงล่ะครับ (หูอื้อ) คลำๆ แล้วนั่งเลย แล้วก็นั่งก้มหน้าแบบสุดๆ โลกเริ่มสว่างขึ้น ทางเดินสายโลหิตเหือดแห้ง มือซีดเหลืองชาๆ แอร์บนรถเย็นมาก แต่เหงื่อยังกับอาบน้ำใหม่ๆ แบกสังขารไปจนถึง พุ่งหาร้านข้าวกินข้าว แล้วก็ไปพบหมอ หมอเจาะเลือดไปตรวจ เอ่อ หมอครับเมื่อวันพฤหัส ผมก็เพิ่งโดนเจาะไปครับ แล้วเมื่อกี้ก็หน้ามืด เลือดหมดครับหมอ หมอบอกไม่เป็นไรเอานิดเดียว ผลตรวจเลือดออกมา เกล็ดเลือดปกติ เม็ดเลือดขาวปกติ ไข้เลือดออกไม่เป็น ทำหมองงอีกคนแล้ว เลยถามไปว่าหรือจะเป็น 2009 หมอบอกตัดไปเลย 2009 อาการหลักต้องไอ เจ็บคอ แต่คุณไม่ไอ ไม่เจ็บคอ ไม่มีอะไรเลย ตัวร้อนเฉยๆ สรุปก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ นัดให้มาวันจันทร์อีก บอกว่า ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ต้องเรื่องใหญ่กันเลยล่ะ ต้องแอดมิดให้น้ำเกลือ เอาเลือดไปตรวจละเอียด หาธัยรอยด์ หานั่นนู่นนี่ คิดในใจว่านี่ต้องทรมานไปอีก 2 วันหรือนี่ แล้วหมอก็ให้ยาลดไข้มาแค่นั้น

วันรุ่งขึ้น “เดย์” โพสต์ข้อความอีกครั้งว่า ไม่ไหวแล้ว ไปกราบขอหมอนอน รพ.ดีกว่า จะกี่หมื่นกี่แสนก็ยอม เรียก Taxi มารับก่อน เดี๋ยวไปเองหน้ามืดอีก

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บไซต์ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันถึงการวินิจฉัยของแพทย์ ตั้งแต่ รพ.เอกชนแห่งแรกที่ไปหา แล้วแพทย์ระบุว่า เป็นไข้ติดเชื้อ ให้ยาพาราเซตามอลมากิน สองวันต่อมาไข้ไม่ลด ผู้ป่วยไปหาแพทย์ใหม่อีกครั้ง แพทย์ก็ยังไม่ใส่ใจที่จะตรวจละเอียด ให้พาราเซตามอลมาอีก จนไม่ไหวผู้ป่วยจึงนั่งรถไฟฟ้าไปพบแพทย์ตามสิทธิประกันสังคม แพทย์ฉีดยาให้กลับบ้าน

วัน รุ่งขึ้นแน่นหน้าอก ไปตรวจใหม่พบปอดติดเชื้อถึง 25% แต่แพทย์ก็ยังไม่สั่งให้นอน รพ.บอกให้กลับบ้าน จนกระทั่งผู้ป่วยรู้ตัวว่าไม่ไหวจึงไป รพ.แห่งที่ 3 และพบว่า เป็นไข้หวัด 2009 แต่ก็สายเกินไป ในที่สุดผู้ป่วยก็เสียชีวิต ทั้งนี้ ผู้ที่ฟอร์เวิร์ดเมลนี้ ระบุว่า อยากให้เป็นอุทาหรณ์ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขมีการประชาสัมพันธ์ทั้งในส่วนของแพทย์ และประชาชน แต่กลับมีความผิดพลาดดังกล่าวเกิดขึ้น


กระทู้ที่หนุ่มวัย 28 รายนี้ตั้งก่อนเสียชีวิต

“วันนี้ ไปหาหมอตามที่หมอนัด ขึ้น BTS ไป คนก็เยอะเลยต้องยืน สักพักเริ่มหวิวๆเริ่มคลื่นไส้ แล้วโลกก็มืดลง แขนก็เริ่มชา มองอะไรไม่เห็นเลย ประมาณ 5 นาทีจนถึงสยาม คนลงเยอะก็ตั้งสติ เพ่งเห็นลางๆ ว่าที่นั่งว่าง ไม่ฟังเสียงล่ะครับ(หูอื้อ) คลำๆแล้วนั่งเลย แล้วก็นั่งก้มหน้าแบบสุดๆ โลกเริ่มสว่างขึ้น ทางเดินสายโลหิตเหือดแห้ง มือซีดเหลืองชาๆ แอร์บนรถเย็นมาก แต่เหงื่อยังกับอาบน้ำใหม่ๆ แบกสังขารไปจนถึง พุ่งหาร้านข้าวกินข้าว แล้วก็ไปพบหมอ หมอเจาะเลือดไปตรวจ เอ่อ หมอครับเมื่อวันพฤหัสผมก็เพิ่งโดนเจาะไปครับ แล้วเมื่อกี้ก็หน้ามืดเลือดหมดครับหมอ หมอบอกไม่เป็นไรเอานิดเดียว ผลตรวจเลือดออกมา เกล็ดเลือดปกติ เม็ดเลือดขาวปกติ ไข้เลือดออกไม่เป็น ทำหมองงอีกคนแล้ว เลยถามไปว่าหรือจะเป็น 2009 หมอบอกตัดไปเลย 2009 อาการหลักต้องไอ เจ็บคอ แต่คุณไม่ไอ ไม่เจ็บคอ ไม่มีอะไรเลย ตัวร้อนเฉยๆ สรุปก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ นัดให้มาวันจันทร์อีก บอกว่าถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ต้องเรื่องใหญ่กันเลยล่ะ ต้องแอดมิดให้น้ำเกลือ เอาเลือดไปตรวจละเอียด หาธัยรอยด์ หานั่นนู่นนี่ คิดในใจว่านี่ต้องทรมานไปอีก 2 วันหรือนี่ แล้วหมอก็ให้ยาลดไข้มาแค่นั้น”


กระทู้ที่หนุ่มวัย 28 รายนี้ตั้งก่อนเสียชีวิต
วันรุ่งขึ้น “เดย์” โพสต์ข้อความอีกครั้งว่า ไม่ไหวแล้ว ไปกราบขอหมอนอน รพ.ดีกว่า จะกี่หมื่นกี่แสนก็ยอม เรียก Taxi มารับก่อน เดี๋ยวไปเองหน้ามืดอีก


คอมเม้น : จึ๋ย งี๊เซขอหมอฉีดวัคซีนเลยดีมะ - -* น่ากัวอ่า
อาการมันไม่ร้ายแรงแต่ก็ควรใส่ใจระวังบ้างเนอะ อุทาหรณ์ สอนใจ


ลืมบอกที่มา - -* http://www.oknation.net/blog/Germany/2009/08/28/entry-1

เพิ่มเติมๆ จาก ไทยรัฐ - -* http://www.thairath.co.th/content/tech/29383

ชาวเน็ตคิดถึง "เดย์ ไอโฟน" คนไอทีจนนาทีสุดท้าย
ในฐานะที่ทำตัวอักษรภาษาไทยให้ใช้งานบนไอโฟนได้ และจะเป็นตัวอย่างของนักพัฒนารุ่นใหม่ ญาติตั้งสวด 3 วันที่ จ.อุตรดิตถ์บ้านเกิด

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการเสียชีวิตอย่างกระทันหัน ของนายณัฐวัฒน์ ปาใจ หรือ "เดย์ ไอโฟน" นักพัฒนาที่ประดิษฐ์ตัวอักษรไทยที่ใช้บนไอโฟน เนื่องจากปอดติดเชื้อไวรัสและต่อมาเชื้อไวรัสได้ลามเข้าสู่หัวใจ เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2552 ที่ผ่านมา ได้ทำให้คนบนอินเทอร์เน็ต และสังคมผู้ใช้งานไอโฟน ต่างร่วมแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ เดย์ ไอโฟน โดยทางญาติและครอบครัว จะนำศพกลับจังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3 วัน และมีกำหนดจะฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์ที่ 30 ส.ค.2552

รายงานข่าวแจ้งว่า นายณัฐวัฒน์ ปาใจ หรือ "เดย์ ไอโฟน" เจ้าของล็อกอิน Creative7419 ผู้ได้รับฉายา เจ้าพ่อแห่ง font บน iphone เกิดเมื่อวันที่ 20 ส.ค.2524 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ โดยผลงานฟอนท์ หรือ ตัวอักษรภาษาไทยสำหรับใช้งานบนเครื่องไอโฟนที่ เดย์ ไอโฟน เป็นผู้สร้างขึ้นมา ได้แก่ ไทย ตวัด (Modified by Creative7419 – smart-mobile.com) ไทย iannnnnGMO (Modified by Creative7419 – smart-mobile.com) ไทย แจ๋ว (Modified by Creative7419 – smart-mobile.com) ไทย Single (Modified by Creative7419 – smart-mobile.com) และ ไทยเปื้อมยิ้ม (Modified by Creative7419 , Original by Neilove – pdamobiz.com)

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า แบบตัวอักษรแบบดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้งานบนไอโฟนที่เป็นเฟิร์มแวร์ล่าสุด คือ iPhone 3.0 และต่อมามีนักพัฒนาคนอื่นๆ ได้เขียนแอพลิเคชันช่วยเปลี่ยนแบบตัวอักษรภาษาไทย ทำให้ผู้ใช้งานไอโฟนสามารถเปลี่ยนตัวอักษรได้หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นผู้สร้างซอฟต์คีย์บอร์ดภาษาไทยบนไอโฟนอีกด้วย

รายงาน ข่าวแจ้งอีกว่า ผลงานการประดิษฐ์ตัวอักษรไทย ของเดย์ ไอโฟน เพื่อใช้งานบนไอโฟนทำให้คนไทย ได้ใช้งานอุปกรณ์สื่อสารนี้อย่างคุ้มค่า สมกับเงินที่จ่าย และมีความสุขในการใช้งาน เช่นเดียวกับการเข้าไปตั้งกระทู้เพื่อแจกฟอนท์ ที่พัฒนาขึ้นมา และ ถาม-ตอบ กับผู้ใช้งานไอโฟน และร่วมในกิจกรรมต่าง บนเว็บไซต์ www.smart-mobile.com และ www.thaiiphone.com ด้วย ความเป็นกันเอง จึงเป็นที่รักของคนในเว็บบอร์ดเสมอ แม้กระทั่งยามเจ็บป่วยเขาก็ยังถ่ายทอดเรื่องราว และบอกเล่าอาการเจ็บป่วยตลอดเวลาที่มีโอกาส ผ่านทางเว็บบอร์ดเพื่อเล่าให้เพื่อนๆ บนโลกออนไลน์ได้รับรู้

รายงาน ข่าวแจ้งด้วยว่า หลังจากข่าวการเสียชีวิตของเขาได้กระจายไปสื่อทุกแขนง รวมถึงฟอร์เวิร์ดเมล์ ทำให้เว็บไซต์ที่เขามักเข้าไปโพสต์กระทู้ เต็มไปด้วยบรรยากาศโศกเศร้า หรือแม้แต่ไฮไฟว์ส่วนตัวที่ http://trojancop.hi5.com ก็มีเพื่อนฝูง ญาติ และคนใกล้ชิด เข้ามาร่วมให้คอมเมนท์ไว้อาลัยกับการจากไป ในโอกาสนี้ไทยรัฐออนไลน์ และทีมข่าวไอทีไดเจส ขอให้อาลัยกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของนายณัฐวัฒน์ ปาใจ หวังว่าท่านผู้อ่าน และผู้ที่ใช้งานไอโฟนจะคิดถึงเขา ในฐานะที่ทำตัวอักษรภาษาไทยให้ใช้งานบนไอโฟนได้ และจะเป็นตัวอย่างของนักพัฒนา ที่คนรุ่นใหม่น่าดำเนินรอยตามต่อไป