ขับเคลื่อนโดย Blogger.


ประกาศสงกรานต์ปีพ.ศ. ๒๕๕๒

“ปี ฉลู มนุษย์ผู้ชาย ธาตุดิน เอกศก จุลศักราช ๑๓๗๑ ทางจันทรคติ เป็นอธิกวาร ทางสุริยคติ เป็นปกติ (เอกศก คือ ปีที่จุลศักราชลงท้ายด้วย ๑ และ ทางสุริยคติเป็นปกติ หมายถึง ปีนั้นๆกุมภาพันธ์มี ๒๘ วันเป็นปกติ)

วันที่ ๑๔ เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับ ณ วันจันทร์ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๕ เวลา ๐๑ นาฬิกา ๑๓ นาที ๑๔ วินาที (ถ้าดูตามปฎิทินสากล วันที่ ๑๔ เมษายน จะเป็นวันอังคาร แต่ ณ ที่นี้ ยังนับเป็นวันจันทร์เพราะยังอยู่ในช่วงตีหนึ่ง หากหลัง ๖ โมงเช้าไปแล้ว ทางโหราศาสตร์จึงจะนับเป็นวันใหม่ คือ วันอังคาร)

นางสงกรานต์ ทรงนามว่า โคราคะเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกปีบ อาภรณ์แก้วมุกดาหาร ภักษาหารน้ำมัน พระหัตถ์ขวาพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จไสยาสน์หลับเนตรมาเหนือ หลังพยัคฆะ (เสือ)พาหนะ

วันที่ ๑๖ เมษายน เวลา ๐๕ นาฬิกา ๐๖ นาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น ๑๓๗๑ ปีนี้ วันเสาร์เป็นธงชัย วันพุธเป็นอธิบดี วันศุกร์เป็นอุบาทว์ วันศุกร์เป็นโลกาวินาศ

ปีนี้ วันจันทร์เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก ๕๐๐ ห่า ตกในโลกมนุษย์ ๕๐ ห่า ตกในมหาสมุทร ๑๐๐ ห่า ตกในป่าหินพานต์ ๑๕๐ ห่า ตกในเขาจักรวาล ๒๐๐ ห่า นาคให้น้ำ ๒ ตัว

เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ ๖ ชื่อลาภะ ข้าวกล้าในภูมินา จะได้ผล ๙ ส่วน เสีย ๑ ส่วน ธัญญาหาร ผลาหาร จะอุดมสมบูรณ์ (ธัญญาหาร คือ ข้าวต่างๆ / ผลาหาร คือ ผลไม้ต่างๆ)

เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีอาโป (น้ำ) น้ำมาก

จาก ประกาศสงกรานต์ข้างต้น เมื่อเทียบกับคำทำนายโบราณ จะเห็นว่า วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันจันทร์ ท่านพยากรณ์ไว้ว่า ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนคุณหญิงคุณนายทั้งหลายจะเรืองอำนาจ วันอังคารเป็นวันเนา ผลหมากรากไม้จะแพง วันพุธเป็นวันเถลิงศก บรรดานักปราชญ์ราชบัณฑิตจะมีความสุขสำราญ และท่าที่นางสงกรานต์เสด็จมา คือ นอนหลับตามาบนหลังเสือ ท่านว่า พระมหากษัตริย์จะเจริญรุ่งเรืองดี

ส่วนคำทำนายทางล้านนา ถ้าวันสังกรานต์ล่องตรงกับวันจันทร์ นางสงกรานต์ชื่อมโนรา ปีนั้นงูจักเกิดมีมาก คนทั้งหลายจักเกิดเป็นพยาธิมากนัก ฝนหัวปีดี หางปีบ่พอดี ข้าวกล้าลางที่ดี ลางที่ก็บ่ดี คนเกิดวันอังคารมีเคราะห์ คนเกิดวันพุธมีโชค

ประมวลจากคำทำนายข้างต้น นอกจากผลหมากรากไม้จะแพง คนเจ็บป่วยและงูจะมีมากขึ้นแล้ว ดูเหมือนว่า หลังสงกรานต์สภาพการณ์ต่างๆน่าจะดีขึ้น และดูมีความหวังเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ถ้าจะสังเกตภาพโดยรวมของนางสงกรานต์ประกอบไปด้วย จะเห็นว่า นางสงกรานต์ปีนี้ มีนามว่า “โคราคะเทวี” อันตรงกับชื่อปีพอดี เพราะคำว่า “โค” ก็คือ “วัว” นั่นเอง อีกทั้งพระนางยังนอนหลับตามาบนหลังเสือ ซึ่งเสือนี้ แม้จะเป็นสัตว์ดุร้าย แต่ถือได้ว่าเป็นสัตว์มงคล ใช้ป้องกันภูตผีปีศาจได้ ทางจีนจึงมีรูปเสือคาบดาบไว้ที่ประตูบ้าน ดังนั้น แม้จะมีคำว่า “ราคะ” คือ ความกำหนัดยินดีในกามรมณ์ หรือการติดใจในรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสต่อท้ายนาม ซึ่งคล้ายจะเป็นชื่อที่ชวนหลงลุ่มหลงมัวเมาในกามคุณต่างๆ แต่เมื่อพระนางนอนหลับตามาบนหลังเสือ จึงมีนัยกลับกัน คือ กลายเป็นการเตือนให้ผู้คนอย่าหลงละเลิงไปกับสิ่งยั่วยุหรือความฟุ้งเฟ้อ ต่างๆ คือ ให้ “ราคะ”เหล่านี้ หลับหรือหยุดนิ่งไปเสีย โดยมี”เสือ”ซึ่งโดยปกติ “วัว” กลัวอยู่แล้วควบคุมอยู่ ซึ่งก็ตรงกับสภาพเศรษฐกิจในปีนี้พอดี ที่คนส่วนใหญ่คงต้องอยู่กันอย่างประหยัด ไม่สามารถใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรือมือเติบได้ และความเครียดในเรื่องเศรษฐกิจก็อาจนำมาซึ่งการเจ็บไข้ได้ป่วยที่เพิ่มจำนวน มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคำทำนายจะดีร้ายประการใด ก็เป็นเพียงการคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่ก็ได้ ดังนั้น หากทุกคนใช้ “สติ” ในการดำรงชีวิต และประพฤติปฎิบัติตนตามหลักศาสนาแล้ว เชื่อว่าเราก็คงเช่นเดียวกับนางสงกรานต์ปีนี้ที่มีพระขรรค์และไม้เท้าเป็น อาวุธ ที่จะช่วยป้องกันและพยุงตัวเราให้รอดพ้นจากวิกฤตต่างๆไปได้


..............................

ทัศชล เทพกำปนาท นักวิชาการวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม


หมาย เหตุ : ตั้งแต่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕๒ เป็นต้นไป ปีนี้ วันเสาร์ เป็นวันธงชัย ช่วงเวลา ๖.๐๐-๗.๓๐ น. /วันพุธ เป็นอธิบดี เวลา ๑๕.๐๐-๑๖.๓๐น. /วันศุกร์ เป็นอุบาทว์ ช่วงเวลา ๑๖.๓๐-๑๘.๐๐ น. / วันศุกร์เป็นโลกาวินาศ เวลา ๙.๐๐-๑๐.๓๐ น.

ข้อมูลและรูปจาก สำนักงานและวัฒนธรรมแห่งชาติ http://www.culture.go.th/www/th/news_detail.php?id=282

0 ความคิดเห็น: