ขับเคลื่อนโดย Blogger.
มีรายการวิกสยามมาให้ด้ชมกันอีกแล้วครับจะพยายามไล่ให้ทันปัจจุบันมากที่สุดนะครับ

เป็นไงมั้งครับสำหลับรายการวิกสยามวันนี้คงได้ความรู้ไปไม่มากก้น้อยนะครับ

เป็นตำนานที่กล่าวขานกันมาแต่นมนาน ถึงความน่ากลัวของศาสตร์อาถรรพ์ ที่มีปรากฏเกิดขึ้นว่า เสือที่ดุร้ายและมักชอบจับคนกินเป็นอาหาร เมื่อกินคนมากเข้าวิญญาณคนที่เสือกินเข้าไปนั้น ก็อยู่สิงสู่ในกายเสือ ทำให้เสือตัวนั้นมีความเป็นอาถรรพ์ ที่สามารถจำแลงแปลงกายบิดเบือนตนเสือให้กลายเป็นใครต่อใครก็ได้ เพื่อเที่ยวหลอกล่อคนที่เป็นเหยื่อให้หลงกล ทำให้จับกินได้ง่ายขึ้น ครั้นยิ่งกินคนมากขึ้น วิญญาณก็ยิ่งสิงสู่ในตัวเสือมากเข้าเท่าใด เสือตัวนั้นก็ยิ่งมีฤทธิ์มีอำนาจมากขึ้นเป็นทวีคูณ

ซึ่งเรื่องความเป็นมาของเสือมิใช่มีแต่เสือมันกินคนแล้วมันจะกลายเป็น เสือสมิงได้เท่านั้น มีอีกอย่างที่ทำให้เกิดความเป็นเสือสมิง คือ พวกที่เรียนวิชาเสือ คือการเรียกเอาวิญญาณเสือนั้นมาเข้าสิงในตน ผนวกกับคนผู้นั้นร่ำเรียนอาคมในทางเดรัจฉานวิชาด้วย เมื่อนานเข้า เกิดการรวมตัวในทั้งสองเรื่องที่กล่าว คือ ทั้งวิชาเรียกเสือ และอาคม ทำให้คนผู้นั้นกลายเป็นเสือสมิง ครั้นเสือตนนี้ได้ไปกินคนเข้า ก็กลายเป็นเสือสมิงโดยสมบูรณ์

มีเรื่องเล่าขานและค่อนข้างดังมาก เมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่แล้ว และดูเหมือนว่า กลายเป็นข่าวลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ที่ยักษ์ของประเทศ ว่า มีชาวบ้านทางภาคเหนือได้รับความเดือดร้อนที่ว่า มีเสือตัวใหญ่เข้าไปทำร้ายคนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งนั้น เป็นที่หวาดกลัวแก่ชาวบ้านมาก จึงได้ไปขอความคุ้มครองจากทหารหน่วย ตชด. เพื่อเข้ามาดูแลความปลอดภัยภายในหมู่บ้าน ฝ่ายทหารหน่วย ตชด. จึงส่งกำลังเข้าไปคุ้มครองและได้ล่าเสือตัวนั่นไปในตัว กลางดึกคืนหนึ่งนั้นฝ่าย ตชด. ได้จัดกำลังตรวจตราหน่วยหนึ่ง และส่วนที่เหลือก็เข้าที่พัก บนศาลาที่จัดกันไว้ เป็นที่พักผ่อนนอนหลับ และในตอนดึกคืนนั้น ศาลาที่หน่วย ตชด. พัก เกิดสั้นไหวโยกเอน เมื่อทหารที่นอนตื่นกันลุกขึ้นมาดู กลับเห็นเสือโคร่งขนาดใหญ่ พิงสีตัวอยู่ที่โคนเสาศาลา ทหารกำลังหน่วยนั้นได้ยิงใส่เสือโคร่งใหญ่นั้น ทำให้เสือตัวนั้น บาดเจ็บและหายไปในความมืดนั้น ครั้นรุ่งเช้า หน่วยทหารจึงทำการติดตามแกะรอยเลือดเสือตนนั้นไป จากการติดตามรอยเลือดนั้นผลปรากฏว่า รอยเลือดนั้นไปสิ้นสุดที่หลุม เนินดินแห่งหนึ่ง แล้วไม่ปรากฏรอยเลือดนั้น ไปทางไหนอีก ทหารที่ติดตามนั้นเห็นเนินดินแล้วจึงตัดสินใจในความสงสัยกันบางอย่าง จึงขุดหลุมเปิดเนินดินนั้น เมื่อขุดไปลึกพอประมาณ ก็ต้องอึ้งกันไปทั้งหมด เพราะสิ่งที่เห็นในหลุมนั้นปรากฏว่า เป็นศพผู้ชายคนหนึ่งแต่ตัวท่อนล่างนั้นเป็นสภาพของเสื่อลายพาดกลอน ดูเหมือนว่า เป็นการกลายร่างจากเสือเป็นคนที่ยังไม่สมบูรณ์นั้นเอง จากการถามที่มาของศพชายผู้นี้ ได้ความว่า เป็นคนในหมู่บ้านย่านนั้น และสาเหตุที่ตายเพราะผิดผี จึงตาย ประเด็นน่าสนใจอยู่ที่ว่า ชายผู้นี้ผิดผีอะไร อย่างไร ซึ่งหนังสือนั้นมิได้กล่าวถึง จึงยากต่อการวิเคราะห์ได้

ในช่วงสมัยนั้นก็มีวิชาที่คล้ายกันอีกอย่างหนึ่ง คือวิชาแปลงร่างเป็นจระเข้ ซึ่งเรื่องนี้ ถ้าสนใจก็ลองค้นในประวัติและเรื่องราวของหลวงปู่สุข วัดมะขามเฒ่า อยุธยา ดูก็จะเห็นความใกล้เคียงในเรื่องความเป็นไป เรื่องของวิชาแปลงร่างนี้ ก็มีปรากฏในเรื่องขอกสินดิน แต่โดยเฉพาะวิชาเสือสมิง และวิชาจระเข้แปลงรูปนี้ ได้สาบสูญไปแล้ว เพราะที่จริงวิชาอย่างนี้ที่สุดแล้วให้โทษมากกว่าให้คุณครับ ปัจจุบันคณาจารย์ หรือผู้เรียนอาคม มักนิยมปลุกเรียกเสือ ลงเครื่องรางมากกว่า เรียกลงคน

เครดิต ankoon

ตอกันอีกตอนครับกับรายการวิกสยามตอนพิธีเปิดสะพานพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกหรือ สะพานพุทธที่คนสมัยนี้นิยมไปจับจ่ายซื้อของกันตอนกลางคืนนั้นมีประวัติอย่างไร ไม่พูดมากดีกว่ามาชมกันเลย(พิมพ์ซิถึงจะถูก)

จริงอย่างที่ในรายการบอกสมัยก่อนรถไม่คิดน้ำมันถูกครับ ส่วนเรื่องการเคี้ยวหมากนั้นผมขอผ่านละกันครับไม่ใหว
วันนี้ผมเอารายการวิกสยามมาให้ได้ชมกันครับเป็นตอนแรกครับอาจเอามาให้ได้ชมกันเรื่อยๆเพราะผมเห็นว่ามันเป็นรายการที่ดีมากครับและหลายคนอาจไม่ชอบอ่านเอาเป็นว่าลองรับชมและรับฟังแทนแล้วกันครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับก๋วยเตี๋ยวมีอะไรมากกว่าที่คุณคิดใช่ใหม่ครับ

เป็นอีกหนึ่งรายการที่เน้นเรื่องราวดีๆ(จริงๆคือดีมากๆเลยครับ) มีสาระให้กับทุกเพศทุกวัย กับรายการ "วิกสยาม" ทางช่องทีวีไทย ที่ได้ 3 พิธีกร แอ๊ด-ไชยวัฒน์ อนุตระกูลชัย, ตรีดาว อภัยวงศ์ และ เผ่าทอง ทองเจือ ที่นำเสนอเรื่องราวดีๆ มีสาระที่เชื่อมต่อระหว่างเรื่องราวในอดีตกับปัจจุบัน อาทิ เรื่องราวของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเมียหลวง เมียน้อย ประเภทของเมีย ตั้งแต่มาตุภรรยา(เชื่อใหม่ว่าหลายคนไม่รู้จักคำนี้) จนถึงทาสภรรยา(เดี่ยวนี้ไม่มีแล้วครับแต่เราจะได้รู้ความลำบกของหญิงสาวสมัยก่อน)
เวลาออกอากาศ : ทุกวันอาทิตย์ เวลา 18.00 น.

ใครที่ใช้รถเล็กๆราคาถูกๆ แล้วรู้สึกอับอาย เสียหน้า .. เข้ามาดู!!!

เคยเสียหน้าใช่ไหมหละ ที่รถตัวเอง เป็นรถเล็กๆ ราคาถูกๆ ไม่กี่แสน ระดับต่ำๆ

อับอาย .. สู้หน้าคนที่ใช้รถราคาแพงๆ หลายล้าน ออปชั่นเพียบไม่ได้

เสียหน้า ที่ตัวเองเป็นหัวหน้า .. ขับรถญี่ปุ่นคันเล็กๆ แต่ลูกน้อง ขับเบนซ์คันใหญ่ บีเอ็มคันยักษ์ ฯลฯ

เลิกคิดน้อยใจได้แล้วครับ...ดูรูปนี่เลย ครับ (โดยเฉพาะคนขับน่ะ)

ผมเอาไปให้ร้านรูปพิมพ์ให้ใหญ่ขนาดโพสต์การ์ด ใส่กรอบ ตั้งหน้ารถ ไว้เตือนตัวเตือนใจตัวเอง ... ว่า

'รถเล็กๆ ก็ พอเพียงแล้ว'
Credit : http://tinyurl.com/ccm2ew

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ขอจงทรงพระเจริญ

ผมแนะนำว่าเราควรไปชมมิวเซียมสยาม สักครั้งหนึ่งครับ อยุ่ไม่ไกลมากตั้งอยู่บนถนนสนามไชย กรุงเทพมหานคร ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องแบบโต้ตอบโดยใช้ตัวละคร 7 ตัวเป็นตัวกลาง ซึ่งชื่ออะไรบ้างนัั้นผมก้จำไม่ได้ครับ แต่ที่แน่ๆคือมันหน้าสนใจมากครับ
พื้นที่จัดแสดงนั้นเป็นอาคารกระทรวงพาณิชย์เดิมภายในมิวเซียมสยามเป็นอาคาร 3 ชั้น มีห้องจัดแสดงนิทรรศการถาวรทั้งหมด 17 ห้อง ภายใต้หัวข้อ "เรียงความประเทศไทย"

ในการเข้าชมมิวเซียมสยามนั้น ทางพิพิธภัณฑ์จะให้เริ่มชมจากชั้น 1 ต่อไปยังชั้น 3 และลงมาสิ้นสุดที่ชั้น 2 บทความนี้จะลำดับความตามลำดับการชม(ตอนแรกผมก้สงสัยว่าทำไม่แบ่งลำดับแปลกแต่ถ้าคุณไปจะรู้เองครับ)
ชั้น 1
ตึกเก่าเล่าเรื่อง ห้องจัดแสดงความเป็นมาของอาคารกระทรวงพาณิชย์เดิม การบูรณะซ่อมแซม รวมถึงการกลายเป็นมิวเซียมสยามในปัจจุบัน
เบิกโรง ห้องฉายภาพยนตร์สั้นเพื่อนำเข้าสู่การชมมิวเซียมสยาม ผ่านตัวละครต่าง ๆ
ไทยแท้ ห้องแสดงวัฒนธรรม เอกลักษณ์ของไทย พร้อมการไขว่าแท้ที่จริงแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นของไทยแท้หรือไม่
ชั้น 3
เปิดตำนานสุวรรณภูมิ ห้องจัดแสดงที่ตั้งของดินแดนที่เรียกว่าสุวรรณภูมิ ชาติพันธุ์ในดินแดนนี้ และวิธีการขุดค้นหลักฐานทางประวัติศาสตร์
สุวรรณภูมิ ห้องจัดแสดงความเป็นอยู่ของผู้คนในสุวรรณภูมิ การติดต่อกับต่างประเทศ และหลักฐานประวัติศาสตร์สุวรรณภูมิ
พุทธิปัญญา ห้องแสดงหัวใจพระพุทธศาสนาและเรื่องราวที่แสดงถึงสัจจธรรม
กำเนิดสยามประเทศ ห้องแสดงเรื่องราวความเป็นมาอาณาจักรต่าง ๆ ในดินแดนสยาม และตำนานต้นกำเนิดกรุงศรีอยุธยา
สยามประเทศ ห้องแสดงเรื่องราวความเป็นอยู่ในสมัยอยุธยา และรูปจำลองเรือแบบต่าง ๆ ตั้งแต่เรือพื้นบ้านถึงเรือพระราชพิธี
สยามยุทธ์ ห้องแสดงรูปแบบการรบ กำลังพล และการทำสงครามในสมัยอยุธยา
ชั้น 2
แผนที่:ความยอกย้อนบนแผ่นกระดาษ ห้องแสดงแผนที่ประเทศไทยในสมัยต่าง ๆ
กรุงเทพฯ ภายใต้ฉากอยุธยา ห้องแสดงเรื่องราวเมื่อสิ้นกรุงศรีอยุธยา เริ่มตั้งกรุงธนบุรี จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ การอพยพของคนชาติต่าง ๆ ในสยาม และการเปรียบเทียบว่ากรุงรัตนโกสินทร์เหมือนกับกรุงศรีอยุธยาอย่างไร
ชีวิตนอกกรุงเทพฯ ห้องแสดงวิถีชีวิตของคนในชนบทนอกกรุงเทพฯ โดยมีเรื่องข้าวเป็นหลัก
แปลงโฉมสยามประเทศ ห้องแสดงการเปลี่ยนแปลงสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 และเรื่องราวของถนนเจริญกรุง
กำเนิดประเทศไทย ห้องแสดงเรื่องราวในสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย
สีสันตะวันตก ห้องแสดงวัฒนธรรมตะวันตกที่เริ่มเข้ามาในประเทศไทย
เมืองไทยวันนี้ ห้องอุโมงค์กระจกขนาดใหญ่ มีโทรทัศน์ขนาดเล็กรายล้อมทั่วห้อง
มองไปข้างหน้า ห้องสำหรับแสดงความคิดเห็นของผู้เข้าชม ด้วยระบบคอมพิวเตอร์แสดงข้อความบนผนัง
3ชั้นที่ผมไปนั้นผมใช้เวลากลับการถ่ายรูปไปเยอะเหมือนกันคุณลองไปดุสักครั้งซิครับแล้วจารู้ว่าการไปพิพิธภัณฑ์ไม่ใช่ได้แค่ความรู้แต่จริงๆมันได้ความสนุกด้วยนะครับ